กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : (5มิถุนายน) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักปิดถนนราชดำเนินนอกเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์นานกว่า 12วัน สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายส่งผลให้การจราจรติดขัดทุกเส้นทางรอบบริเวณเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง และ สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับ 6 แกนนำข้อหา ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ข้อหากีดขวางการจราจร
โดยได้สั่งการไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้ครบถ้วนสมบูรณ์ หากพบมีหลักฐานยืนยันการกระทำความผิดชัดไม่ว่าจะเป็นข้อหาใดๆ ตามที่มีการแจ้งความไว้ให้ดำเนินการออกหมายเรียกบุคคลผู้นั้นมาสอบปากคำรับทราบข้อกล่าวหาในทันที
"ผมได้เน้นย้ำแนวทางการสอบสวนไปว่า ให้ทำอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานคำให้การของพยาน ภาพถ่ายวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ให้นำมารวบรวมในสำนวนคดีให้หมดให้ครบถ้วน ซึ่งการออกหมายเรียกนั้นหากไม่มาพบตามหมายเรียก 3 ครั้งก็ให้ออกหมายจับตามขั้นตอนกระบวนการสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามทุกคนต้องเคารพกฎหมายและอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมืองเดียวกันทั้งนั้น เพราะตลอดการชุมนุมที่ผ่านมมีประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพได้รับผลกระทบเดือดร้อนกันทั้งนั้น โดยเฉพาะนักเรียนและข้าราชการในย่านดังกล่าว พ่อค้าแม่ค้า รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนน หรือแม้กระทั่งนักมวยก็ตาม" แหล่งข้อมูล
ผบช.น. กล่าวและว่าที่ผ่านมา ผบ.ตร. รองผบ.ตร. หรือแม้แต่ตนเองและตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายพยายามเข้าเจรจาร้องขอวิงวอนหลาครั้งก็ตาม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมถอยตำรวจเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พวกเขาไม่รู้ว่าประเทศนี้เมืองนี้เป็นของคนไทย 60 กว่าล้านคนไม่ใช่เป็นของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดคนเดียวอีกทั้งบริเวณสะพานมัฆวานฯ นั้นก็ไม่ใช่เป็นเขตปกครองพิเศษของใครที่จะทำอะไรได้อย่างตามอำเภอใจ