มท.สรุปยอดใช้ไฟฟรี 9.85 ล้านราย น้ำ 3.2 ล้านราย
นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ได้กล่าวรายงานต่อที่ประชุมกระทรวงมหาดไทยถึงการดำเนินงานสนองนโยบายการใช้น้ำประปาและการใช้ไฟฟ้าฟรีตามที่รัฐบาลกำหนด ว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับส่วนลดจากการให้กระแสไฟฟ้าทั้งผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วย ที่ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้า และผู้ที่ใช้ไฟฟ้าจำนวน 80 หน่วย แต่ไม่เกิน 150 หน่วยที่รัฐบาลจะออกค่าไฟให้ครึ่งหนึ่ง โดยมีผู้ที่ได้รับส่วนลดทั้งสิ้น 9.85 ล้านราย แบ่งเป็นในส่วนของกฟน. 4.1 แสนราย และในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) 9.45 ล้านราย ซึ่งคิดเป็นค่าเฉลี่ยครัวเรือนละ 120-200 บาท ต่อเดือน สำหรับการใช้น้ำประปาฟรี ไม่เกิน 50 หน่วย มีผู้ที่ไม่ต้องชะระค่าน้ำประปาประมาณ 3.2 ล้านราย เป็นผู้ใช้น้ำประปาของการประปานครหลวง 1.2 ล้านราย การประปาส่วนภูมิภาค 2 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 176 บาท ต่อเดือน พร้อมกันนี้ยังได้มีการขอมาตรการเงินเพิ่ม เนื่องจากว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าภาษีจากรัฐบาลจึงจะเป้นที่จะต้องของบประมาณในส่วนนี้เพิ่ม นอกจากนี้ยังมีข้อถกเถียงในเรื่องของอาคารชุด และที่พักอาศัยที่มีการจดทะเบียนในรูปแบบร้านค้า และเป็นกิจการอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะใช้ไฟได้ตามที่กำหนดแต่ก็ไม่ได้รับสิทธิ เพราะรัฐบาลไม่ได้กำหนดในรายละเอียด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สอบถามถึงการประปาท้องถิ่นว่าเหตุใดจึงไม่ได้รับส่วนลดดังกล่าว ทั่งที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในส่วนนี้ไว้ด้วย และให้ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทำข้อมูลมานำเสนอ เพื่อที่จะได้นำเสนอไปยังสำนักงบประมาณต่อไป อีกทั้งได้สั่งให้ทุกหน่วยงานให้ทำความเข้าใจกับผู้ใช้ว่าอยู่ในข่ายหรือไม่ เพราะยังมีประชาชนอีกหลายส่วนที่ยังไม่เข้าใจ
ทางด้านนายสมพร ใช้บางยาง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้กล่าวว่า ในส่วนของการประปาท้องถิ่นไม่ได้อยู่ในนโยบายดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งให้รวบรวมข้อมูล เพื่อที่จะหาแนวทางเท่านั้น เพราะเรื่องนี้จะต้องมีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อที่จะอนุมัติงบประมาณดังกล่าว
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวยังมีปัญหาต่างๆมากมาย เพราะครม.อนุมัติเพียงหลักการ ดังนั้นจึงขอให้ทุกหน่วยงานที่มีปัญหา รวบรวมปัญหาทั้งหมด และเสนอมาภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพื่อที่จะได้ศึกษา และนำเสนอครม.ต่อไป แหล่งข้อมูล