3 แกนนำพันธมิตรฯถึงสภาเข้ายื่นถอดส.ส.-ส.ว.แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 3 คนได้แก่ นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้เดินทางไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือถอดถอน ส.ส.และ ส.ว. ที่จะลงชื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พฤติการของส.ส.- ส.ว. ที่ร่วมลงนามแก้รัฐธรรมนูญ 2550 ว่าเข้าข่ายความผิดมาตรา 270 ต่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ดังนี้
1.ความผิดของส.ส.ตามมาตรา 122 การปฎิบัติหน้าที่อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากมี ส.ส. บางส่วนสังกัดพรรคการเมืองที่กำลังถูกดำเนินคดียุบพรรค ในขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญ มีจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้พรรคการเมืองของตนพ้นจากควมผิดยุบพรรค แม้ส.ส.จะอ้างเอกสิทธิคุ้มครอง แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่า ส.ส. จะไม่ได้ใช้เอกสิทธิในทางที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
2.ความผิดของส.ว. ตามม. 122 การปฎิบัติหน้าที่อันเป็นการขัดกันแห่งประโยชน์เนื่องจากร่างแก้ไขเพิมเติมรัฐธรรมนูญ ได้มุ่งหมายเปลี่ยนโครงสร้างของวุฒิสภา ทั้งที่มาและอำนาจหน้าที่ หวังเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยให้ยุบเลิกส.ว.ที่มาจากการสรรหาทิ้ง ฉะนั้นการที่ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้งบางส่วน ร่วมลงชื่อแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ฉบันนี้จึงถือเป็นการกระทำที่มีส่วนได้เสีย
3.ความผิดตาม ม. 291 เนื่องจากร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งเนื้อหาและรูปแบบที่เสนอมานั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ม. 291 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา กล่าวคือให้นำบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้บังคับแทนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2550 โดยการยกเลิกเชื่อหมวด ตั้งแต่หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชาวไทยจนถึงบทเฉพาะกาล และให้นำชื่อหมวดและบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้บังคับแทนทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่หมวด 3 ดังนั้น รูปแบบดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นการให้นำบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้บังคับแทน 2550
และ 4.ความผิดตาม ม. 68 พบว่าบทญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งรูปแบบวิธีการและสาระสำคัญในร่างแก้ไข ที่เสนอต่อรัฐสภาครั้งนี้เป็นการโละ และล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จึงเป็นวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิธีทางที่บัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน แหล่งข้อมูล และภาพประกอบ