Thursday, April 17, 2008

วิกฤตภาวะโลกร้อน

108ไอเดีย
รวมพลังลดวิกฤตโลกร้อน
รวมความรู้ ปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อน
พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติขายให้ไทยแล้ว รวมมูลค่าสูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 85,050 ล้านบาท หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ ไทมส์ รายงาน(8 เม.ย.) อ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่าว่า ในปี 2550 พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติขายให้ไทยแล้ว รวมมูลค่าสูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 85,050 ล้านบาท
ในปีดังกล่าว พม่า ซึ่งแม้จะโดนชาติตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพราะประวัติด้านสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ มียอดการค้าโดยรวมทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8,700 ล้านดอลลาร์ (274,050 ล้านบาท) แบ่งเป็นการส่งออก 5,900 ล้านดอลลาร์ (185,850 ล้านบาท) การนำเข้า 2,800 ล้านดอลลาร์ (88,200 ล้านบาท) ส่งผลให้พม่ามีตัวเลขเกินดุลการค้าที่ 3,100 ล้านดอลลาร์ (97,650 ล้านบาท)
ยอดส่งออกที่แข็งแกร่งดังกล่าว ได้อานิสงส์จากการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้ไทย ซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศถึง 2,700 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 45% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด
นายหม่อง หม่อง นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิจัยจากสถาบันวิจัยและศึกษาเศรษฐกิจของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมสหภาพพม่า (ยูเอ็มเอฟซีซีไอ) กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้มูลค่าการค้าของพม่าเพิ่มขึ้น คือ การสนับสนุนจากภาคพลังงาน ได้แก่ การส่งออกก๊าซธรรมชาติให้ประเทศไทย โดยนับแต่ปี 2545 เป็นต้นมา พม่ามีการส่งออกก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังการเปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายแรก เพื่อใช้ส่งก๊าซจากแท่นขุดเจาะในอ่าวเมาะตะมะไปยังไทย
ขณะที่พลจัตวาทิน เนียง ถิ่น รัฐมนตรีพาณิชย์ ระบุว่า การมีท่อส่งก๊าซดังกล่าว ทำให้พม่าได้เปรียบดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากก๊าซธรรมชาติแล้ว สินค้าส่งออกหลักของพม่าเมื่อปีที่แล้วยังรวมถึง สินค้าเกษตร คิดเป็นมูลค่า 572 ล้านดอลลาร์ (18,018 ล้านบาท) สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ 561 ล้านดอลลาร์ (17,671.5 ล้านดอลลาร์) และสินค้าประมง 366 ล้านดอลลาร์ (11,529 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม สินค้านำเข้าหลักยังคงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็นมูลค่า 471 ล้านดอลลาร์ (14,836.5 ล้านบาท) ตามด้วยสิ่งทอ น้ำมันปาล์ม ชิ้นส่วนเครื่องจักร และรถยนต์
ก่อนหน้านี้ ผู้ให้กู้ยืมหลายรายของพม่า เช่น ธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ได้ยกเลิกโครงการร่วมกับพม่าในปี 2531 หลังจากที่รัฐบาลทหารพม่าปราบปรามกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน
สหรัฐและอียูได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตร หลังจากที่พม่าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างรุนแรงอีกครั้งในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว หลังจากราคาเชื้อเพลิงทะยานขึ้น 2 เท่า ซึ่งคาดกันว่าการปราบปรามครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย แหล่งข้อมูล