Wednesday, February 25, 2009

โครงการ "ตู้อักษร ซ่อนปัญญา"

นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.มติชน กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่หนังสือพิมพ์มติชนได้ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 32 จึงร่วมมือกับมูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ มูลนิธิ บรรจง พงศ์ศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดทำโครงการ "ตู้อักษร ซ่อนปัญญา" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอ่านหนังสือแก่เยาวชน และสนับสนุนหนังสือที่ดีมีคุณภาพแก่ห้องสมุดโรงเรียนที่ขาดแคลน โดยเน้นโรงเรียนที่เกณฑ์การศึกษาต่ำกว่ามาตรฐาน จำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพ รวมทั้งประสาน สพฐ.เพื่อเสาะหาโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่มีผลการประเมินต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เบื้องต้น 100 แห่ง

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เพื่อซื้อหนังสือและตู้ โรงเรียนละ 1 ตู้ ตู้ละ 25,000 บาทนั้น ล่าสุดมียอดเมื่อวันที่ 24 ก.พ.พบว่ายอดบริจาคสูงถึง 5,664,898 บาท โดยสามารถบริจาคได้ถึง 226 โรงเรียน โดยเบื้องต้นมีความพร้อมในการส่งมอบหนังสือและตู้แก่โรงเรียน 100 แห่งแรก จึงจัดพิธีส่งมอบในวันนี้ก่อน ส่วนโรงเรียนที่เหลือคาดว่าจะได้รับภายในมีนาคมนี้

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมในโครงการ โดยเป็นหนึ่งในผู้บริจาค ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะช่วยเหลือการศึกษาและส่งเสริมการอ่านแล้ว ยังเป็นการระดมความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมต่อการศึกษา สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการส่งเสริมการอ่านนั้น ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญประการหนึ่ง โดยในสัปดาห์หน้าตนจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเป็นการเรียนรู้อย่างแท้จริงไปตลอดชีวิต

"ขอฝากผู้อำนวยการสถานศึกษาทุกท่านที่ได้รับหนังสือพร้อมตู้ที่ไปตั้งในสถานที่ศึกษา ให้บริหารจัดการด้วยวิธีการต่างๆ ที่จะ ทำให้เด็กรักหนังสือ รักที่จะศึกษาหาความรู้และได้รับประโยชน์สูงสุดจาก ตู้อักษร ซ่อนปัญญา นี้ ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคและเจ้าของโครงการ" นายจุรินทร์ กล่าว

ขณะที่นายวินัย รอดจ่าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.รู้สึกซาบซึ้งในโครงการดังกล่าว จากที่รับบริจาคจนได้เกินกว่าเป้าหมาย เพราะทราบว่าโครงการนี้ เบื้องต้นจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 100 โรงเรียนทั่วประเทศ แต่เมื่อประสานมาทาง สพฐ.เพื่อขอรายชื่อโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น ทางเราก็ดำเนินการจนแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ขอฝากถึงผู้เกี่ยวข้องขอให้นำสิ่งที่ได้รับบริจาคไปนั้น นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนให้มากที่สุด แหล่งข้อมูล