Friday, March 28, 2008

แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 (กรณียุบพรรค)

ที่ประชุมวิปรัฐให้แก้รธน. ม.237 เป็นวาระเร่งด่วน
ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) แถลงผลการประชุมวิปรัฐบาล (24 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 (กรณียุบพรรค) เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับ ส.ส. ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และเป็นทางออกในการปฏิบัติงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเฉพาะกรณีที่ต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค

แก้รัฐธรรมนูญ "หนีผิด" ไม่สมควร-ไม่ชอบธรรม
แก้รัฐธรรมนูญหรือ "แก้เกม" เพื่อใคร
เพราะคนไทยเอียนระอากับการฉ้อฉลของนักเลือกตั้ง...จึงมีมาตรา 237

51ส.ส.พปช.อีสาน ค้านเร่งแก้รัฐธรรมนูญ
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า หลังจากประชุมพรรคซึ่งมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปรากฏว่ามีเสียงเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งต้องการให้มีการแก้ไขและอีกส่วนไม่ต้องการให้แก้ไข โดยจากการหารือ ส.ส.อีสาน ในพรรคพลังประชาชน มีประมาณ 51 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ใหม่เห็นว่าไม่ควรเร่งรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะเชื่อว่ายังไม่ใช่จะมีการยุบพรรคในเวลานี้ แต่ควรมาพิจารณาหาเหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรค ก็คือกรณีคดีที่ นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนที่ศาลรับคำร้องให้ใบแดงของ กกต.ซึ่งทีมกฎหมายของพรรค ควรระดมมาช่วยกันดูแล อย่าเพิ่งวิตกการพิจารณาในชั้นศาลว่าจะไม่มีความยุติธรรม การพิจารณา อาจไม่ถึงขั้นยุบพรรคก็ได้ ก็ต้องดูว่า กกต.จะเอาอะไรมาเล่นงานหาทางยุบพรรคอีกซึ่งยังใช้ระยะเวลาอีกนานอีกกว่าจะมีการพิจารณายุบพรรค รวมทั้งจะต้องรอดูผลคดียุบพรรค 2 พรรคก่อน

'ประสพสุข'บอกรธน.ยังใช้ได้ ถ้าแก้ต้องยึดประชาชนเป็นหลัก
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เคยพูดหลายครั้งแล้วว่า ควรใช้รัฐธรรมนูญฉบับอย่างนี้อย่างน้อย 1 ปี เพราะถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการเมืองไทย แต่ถามว่าแก้ไขได้หรือไม่ ก็ตอบว่าได้ หากจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หรือประเด็นใดเสียหายก็ต้องแก้ไข ซึ่งต้องใช้มาตรฐานความรู้สึกของวิญญูชน ส่วนการเสนอแก้ไขมาตรา 237 นั้น ก็ต้องดูว่าแก้ไขไปเพื่ออะไร เพราะเราได้วางกติกาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ทำผิดแบบไหนถึงจะมีโทษถึงขั้นยุบพรรค ซึ่งเราต้องเล่นไปตามกติกา และทุกคนก็ทราบมาก่อนล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้วุฒิสภาไม่ได้เป็นผู้ริเริ่ม