พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2550 ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา 2 นาย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 โดยมีนายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ นางสุวิมล ภูมิสิงหราช เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงของรัฐสภาเข้าร่วมในพิธี อ่านรายละเอียด
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วยตนเองได้ที่นี่
ข่าวจากมติชน'หมายความว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างขึ้นโดยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการนำพาประเทศไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และจัดให้มีการเลือกตั้งได้โดยเร็ว' นายมีชัยกล่าว นายมีชัย กล่าวถึงสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า จากคำปรารภในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สรุปสาระสำคัญได้ 8 ประการ ดังนี้ 1.ธำรงไว้เพื่อรักษาเอกราชของชาติ 2.ทำนุบำรุงศาสนาทุกศาสนาให้สถิตย์สถาพร 3.เทดทูนพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและเป็นมิ่งขวัญของชาติ 4.ยึดถือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 5.คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 6.ส่งเสริมให้ประชาชนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการปกครองและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างเป็นรูปธรรม 7.กำหนดกลไกของสถาบันทางการเมืองทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารให้มีดุลยภาพและประสิทธิภาพตามวิถีการปกครองแบบรัฐสภา และ 8. มุ่งให้สถาบันศาลและองค์กรอิสระอื่นสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสุจริตเที่ยงธรรม